วิตามินบี ดีอย่างไร ทำความรู้จักกับประโยชน์ของวิตามินบี

วิตามินบี

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ในบทความนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับ วิตามินบี กันค่ะ ซึ่ง วิตามินบี นั้นเป็นวิตามินที่ละลายได้ดีในน้ำ และยังเป็นวิตามินที่มีความสำคัญต่อระบบประสาท และการทำงานของร่างกายอีกด้วยนะคะ เช่นนั้นแล้ว เราไปทำความรู้จัก วิตามินบี กันเลยดีกว่าค่ะ ว่าเป็นอย่างไร และมีประโยชน์อะไรกับร่างกายของเรากันบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

ประโยชน์ของวิตามินบี

ประโยชน์ของวิตามินบี

1. วิตามินบีรวม

วิตามินบีรวม เป็นวิตามินที่รวมเอาวิตามินบี 1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 วิตามินบี7 วิตามินบี9 วิตามินบี12 วิตามินบี15 วิตามินบี17 ไบโอติน โคลีน พาบา และอิโนซิทอล เข้าไว้ในวิตามินบีรวม

     1.1 ประโยชน์ของวิตามินบีรวม มีดังนี้

  • วิตามินบีรวมมีความจำเป็นอย่างมากต่อระบบประสาทและความสมบูรณ์ของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย

2. วิตามินบี 1

วิตามินบี1 หรือไทอะมีน เป็นวิตามินที่มีส่วนช่วยบำรุงประสาท แหล่งอาหารที่พบวิตามินบี 1 อาทิเช่น ผัก โฮลวีต ถั่วเหลือง ข้าวโอ๊ต ถั่วลิสง รำข้าว เปลือกข้าว เมล็ดที่ไม่ผ่านการขัดสี บริเวอร์ยีสต์ นม ไข่แดง ปลา เนื้อออร์แกนิก เนื้อหมูไม่ติดมัน เป็นต้น

     2.1 ประโยชน์ของวิตามินบี1 มีดังนี้

  • ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต
  • ช่วยย่อยอาหารจำพวกแป้งได้เป็นดี
  • ช่วยบำรุงประสาท กล้ามเนื้อ และหัวใจให้ทำงานเป็นปกติ
  • ช่วยบำรุงสมอง ความคิด สติปัญญาให้ดีขึ้น
  • ช่วยบรรเทาอาการเมารถ เมาเรือ เมาเครื่องบิน
  • ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดหลังผ่าตัดทำฟัน
  • ช่วยรักษาโรคงูสวัด
  • ช่วยแก้บรรเทาอาการเหน็บชา
  • มีคุณสมบัติในการขับปัสสาวะอย่างอ่อน ๆ

     2.2 ปริมาณวิตามินบี1 ที่ร่างกายต้องการต่อวัน คือ 1.5 มิลลิกรัม

3. วิตามินบี 2

วิตามินบี2 หรือไรโบฟลาวิน แหล่งอาหารที่พบวิตามินบี 2 อาทิเช่น ไข่ นม ถั่ว โยเกิร์ต ชีส ผักใบเขียว ปลา ตับ ไต เป็นต้น

     3.1 ประโยชน์ของวิตามินบี 2 มีดังนี้

  • ช่วยในกระบวนการสร้างการเจริญเติบโตและสืบพันธุ์
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณ เล็บ และเส้นผม
  • ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น
  • ช่วยบรรเทาอาการอ่อนล้าของสายตา
  • ช่วยลดความเจ็บปวดจากไมเกรน
  • ช่วยกำจัดอาการเจ็บแสบในปาก ริมฝีปาก และลิ้น
  • วิตามินบี2 ทำงานร่วมกับสารอื่น ๆ ในการเผาผลาญอาหารประเภทแป้ง ไขมัน และโปรตีน

3.2 ปริมาณวิตามินบี2 ที่ร่างกายต้องการต่อวัน คือ 1.2-1.7 มิลลิกรัม

วิตามินบีรวม

4. วิตามินบี 3

วิตามินบี3 หรือไนอะซิน แหล่งอาหารที่พบวิตามินบี 3 อาทิเช่น ไข่ ปลา เนื้อไม่ติดมัน เนื้อขาวจากพวกสัตว์ปีก ตับ โฮลวีต จมูกข้าวสาลี ถั่วลิสง อะโวคาโด อินทผลัม ลูกพรุน มะเดื่อฝรั่ง บริเวอร์ยีสต์ เป็นต้น

     4.1 ประโยชน์ของวิตามินบี3 มีดังนี้

  • ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
  • ช่วยเผาผลาญไขมัน
  • ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น บรรเทาปัญหาต่าง ๆ ของระบบย่อยอาหาร
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณ
  • ช่วยบรรเทาอาการปวดศีระษะจากไมเกรน
  • ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความดันโลหิต
  • ช่วยบรรเทาอาการท้องร่วง
  • ช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะของโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
  • ช่วยเพิ่มพลังงานที่ได้จากการย่อยและเผาผลาญอาหาร
  • ช่วยรักษาอาการร้อนในและกลิ่นปาก
  • วิตามินบี3 มีความจำเป็นต่อระบบประสาทและการทำงานของสมอง

     4.2 ปริมาณวิตามินบี3 ที่ร่างกายต้องการต่อวัน คือ 13-19 มิลลิกรัม

5. วิตามินบี 5

วิตามินบี5 หรือกรดแพนโทเทนิก แหล่งอาหารที่พบวิตามินบี 5 อาทิเช่น เนื้อสัตว์ ไก่ ตับ ไต หัวใจ ธัญพืชไม่ขัดสี รำข้าว จมูกข้าวสาลี ถั่ว ผักสีเขียว กากน้ำตาลไม่บริสุทธิ์ บริเวอร์ยีสต์ เป็นต้น

     5.1 ประโยชน์ของวิตามินบี5 มีดังนี้

  • ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
  • ช่วยลดอาการข้างเคียงจากการใช้ยาปฏิชีวนะ
  • ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
  • ช่วยในกระบวนการรักษาแผล
  • ช่วยรักษาอาการช็อกหลังการผ่าตัด
  • ช่วยป้องกันการอ่อนเพลียของร่างกาย
  • ช่วยลดความเจ็บปวดจากโรคข้ออักเสบในผู้ป่วยบางรายได้
  • ช่วยรักษาอาการเหน็บชาที่มือและเท้า
  • ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย

     5.2 ปริมาณวิตามินบี5 ที่ร่างกายต้องการต่อวัน คือ 10 มิลลิกรัม

6. วิตามินบี 6

วิตามินบี6 หรือไพริด็อกซิน เป็นคำที่ใช้เรียกรวมกันของกลุ่มสารที่มีโครงสร้างคล้ายกันและทำงานร่วมกัน ประกอบไปด้วย ไพริด็อกซิน ไพริด็อกซาล และไพริด็อกซามีน และแหล่งอาหารที่พบวิตามินบี 6 อาทิเช่น บริเวอร์ยีสต์ รำข้าว จมูกข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี ถั่วลิสง ถั่วเหลือง วอลนัต กะหล่ำปลี กากน้ำตาล แคนตาลูป ไข่ ตับ ปลา เป็นต้น

     6.1 ประโยชน์ของวิตามินบี 6 มีดังนี้

  • ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรง
  • ช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในไต
  • ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
  • ช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมโปรตีนและไขมันได้ดีขึ้น
  • ช่วยช่วยเปลี่ยนรูปของทริปโตเฟนให้เป็นไนอะซิน (วิตามินบี3)
  • ช่วยป้องกันโรคทางประสาทและโรคผิวหนังหลายชนิด
  • ช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน
  • ช่วยชะลอวัยได้
  • ช่วยลดอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งในเวลากลางคืน มือชา ขาเป็นตะคริว และปลายประสาทที่แขนขาอักเสบบางชนิด
  • เป็นยาขับปัสสาวะตามธรรมชาติ

     6.2 ปริมาณวิตามินบี 6 ที่ร่างกายต้องการต่อวัน คือ 1.6-2 มิลลิกรัม

7. วิตามินบี 7

วิตามินบี7 หรือไบโอติน แหล่งอาหารที่พบวิตามินบี 7 อาทิเช่น ตับวัว ไข่แดง นม แป้งถั่วเหลือง เนย ถั่วลิสง บริเวอร์ยีสต์ ข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี เป็นต้น

     7.1 ประโยชน์ของวิตามินบี 7 มีดังนี้

  • ช่วยป้องกันผมหงอกได้ดี
  • ช่วยป้องกันและรักษาโรคเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะล้าน
  • ช่วยป้องกันและบำรุงรักษาเล็บที่แห้งเปราะ
  • ช่วยในการเผาผลาญไขมันและโปรตีน
  • ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ
  • ช่วยบรรเทาอาการผื่นผิวหนังอักเสบ ผดผื่นคันต่าง ๆ

     7.2 ปริมาณวิตามินบี 7 ที่ร่างกายต้องการต่อวัน คือ 100-300 ไมโครกรัม

วิตามินบีต่างๆ

8. วิตามินบี 9

วิตามินบี9 หรือกรดโฟลิก แหล่งอาหารที่พบวิตามินบี 9 อาทิเช่น ไข่แดง ตับ ผักใบเขียวเข้ม แคร์รอต แคนตาลูป ฟักทอง เอพริคอต อะโวคาโด อาร์ทิโชก ถั่ว แป้งไรย์แบบสีเข้มที่ไม่ผ่านการขัดสี ทอร์ทูลายีสต์ เป็นต้น

     8.1 ประโยชน์ของวิตามินบี9 มีดังนี้

  • ช่วยบำรุงผิวพรรณและสุขภาพ
  • ช่วยแก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอได้
  • ช่วยชะลอให้ผมขาวช้าลง เมื่อรับประทานร่วมกับพาบา และวิตามินบี5
  • ช่วยให้เจริญอาหาร หากร่างกายอ่อนเพลีย
  • ช่วยป้องกันแผลร้อนในได้
  • ช่วยรักษาภาวะซีดหรือโลหิตจาง
  • ช่วยป้องกันพยาธิในลำไส้และอาการแพ้จากอาหารเป็นพิษ
  • ช่วยป้องกันการพิการของเด็กทารกแรกเกิด
  • ช่วยในการสร้างน้ำนมของมารดาหลังคลอดบุตร
  • ช่วยลดระดับของกรดอะมิโนโฮโมซิสเทอีนในเลือด
  • ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้
  • ทำงานออกฤทธิ์คล้ายยาแก้ปวด

     8.2 ปริมาณวิตามินบี9 ที่ร่างกายต้องการต่อวัน คือ 180-200 ไมโครกรัม

9. วิตามินบี 12

วิตามินบี12 หรือโคบาลามิน แหล่งอาหารที่พบวิตามินบี 12 อาทิเช่น เนื้อสัตว์เป็นหลัก ตับ ไต นม ไข่แดง ชีส ปลา เนื้อหมู เนื้อวัว อาหารหมักดอง เป็นต้น

     9.1 ประโยชน์ของวิตามินบี 12 มีดังนี้

  • ช่วยบำรุงประสาท ทำให้ระบบประสาทแข็งแรงขึ้น
  • ช่วยเพิ่มสมาธิ ความจำ และการทรงตัว
  • ช่วยบรรเทาอาการหงุดหงิด ลดความเครียด
  • ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตและเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย
  • ช่วยทำให้ร่างกายสามารถใช้ไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตได้อย่างเหมาะสม
  • ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
  • ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจาง
  • ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งจากการสูบบุหรี่
  • ช่วยเสริมสร้างความแข็งของกระดูกและช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนได้

     9.2 ปริมาณวิตามินบี 12 ที่ร่างกายต้องการต่อวัน คือ 2 ไมโครกรัม

10. วิตามินบี 15

วิตามินบี15 หรือกรดแพงเกมิก แหล่งอาหารที่พบวิตามินบี 15 อาทิเช่น ข้าวกล้อง เมล็ดฟักทอง เมล็ดงา เมล็ดธัญพืชไม่ขัดสี บริเวอร์ยีสต์ เป็นต้น

     10.1 ประโยชน์ของวิตามินบี15 มีดังนี้

  • ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
  • ช่วยบรรเทาอาการอยากดื่มสุรา
  • ช่วยรักษาอาการเมาค้าง เร่งการฟื้นตัวจากความอ่อนเพลีย
  • ช่วยป้องกันอันตรายจากมลพิษต่าง ๆ
  • ช่วยบรรเทาอาการเจ็บหน้าอกจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและโรคหืด
  • ช่วยปกป้องตับจากภาวะตับแข็ง
  • ช่วยเพิ่มการตอบสนองภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • ช่วยในการสังเคราะห์โปรตีน

11. วิตามินบี 17

วิตามินบี17 หรืออะมิกดาลิน (Amygdalin) หรือเลไทรล์ (Laetrile) แหล่งอาหารที่พบวิตามินบี17 อาทิเช่น เมล็ดพืชโดยเฉพาะเมล็ดเอพริคอต และยังมีเมล็ดอื่น ๆ อีก เช่น เมล็ดแตงโม เมล็ดพลับ เมล็ดถั่วอัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน ข้าว ถั่ว ถั่วแมคาเดเมีย เป็นต้น

     11.1 ประโยชน์ของวิตามินบี17 มีดังนี้

  • ช่วยป้องกันความเสื่อมทางสมองได้
  • ช่วยทำให้ผู้ที่ร่างกายอ่อนแอกลับมามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเหมือนเดิมและสุขภาพจิตก็ดีขึ้น

และนี่ก็เป็นวิตามินบีที่เรานำมาให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกันค่ะ อย่างไรก็ตาม การกินวิตามินบี ไม่ควรกินแยกกันนะคะ เพราะแต่ละชนิดจะทำหน้าที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน และทำให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานอย่างสูงสุด เราจึงไม่ควรกินแค่ตัวใดตัวหนึ่งค่ะ และควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมีส่วนทำให้การดูดซึมของวิตามินบีลดลง ทำให้เพื่อน ๆ อาจขาดวิตามินบีได้ค่ะ

pg slot เป็นเกมสล็อตออนไลน์ ยอดนิยมในปัจจุบัน ที่มีรูปแบบการเดิมพันหลัก คือ การเดิมพันบนสมาร์ทโฟน แท็ปเลต หรือคอมพิวเตอร์ แบบใหม่ล่าสุด แถมยังให้คุณได้ ทดลองเล่น pg slot ฟรี โดย ไม่ต้องฝากเงิน แถมคุณยังเล่นเกมกับค่าย pg slot เล่นง่าย จ่ายจริง ปลอดภัย 100% แน่นอนค่ะ

SUPERWALLET คือ ผู้ให้บริการเว็บเล่นเกมสล็อตออนไลน์ จากทุกค่ายชั้นนำอย่างค่าย PG SLOT, SLOTXO, AMB และอีกมากมายค่ะ และเพื่อความสะดวกของผู้เล่นและสมาชิกของเรา ด้วยบริการเติม ถอน เครดิต สำหรับเล่น SUPERSLOT ผ่าน ทรู วอเล็ท (True Wallet) ที่คุณสามารถเติมเงินเข้าแอพ True Wallet ได้ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ